วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Gallery

...

การถนอมอาหารโดยการดอง

      การถนอมอาหารโดยการดอง โดยใช้จุลินทรีย์บางชนิดที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ โดยจุลินทร์ทรีย์นั้นจะสร้างสารบางอย่างขึ้นมาในอาหาร ซึ่งสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ตัวอื่นๆได้ ดังนั้นผลของการหมักดองจะทำให้อาหารปลอดภัยจากจุลินทร์ทรีย์ชนิดอื่นๆ และยังทำให้เกิดอาหารชนิดใหม่ๆที่มีลักษณะแตกต่างไปจากเดิม เป็นการเพิ่มกลิ่น และรสชาติของอาหารให้แปลกออกไป
การถนอมอาหารโดยการดองมีหลายวิธีดังนี้
        
การดองเปรี้ยว  ผักที่นิยมนำมาดอง เช่น ผักกาดเขียว กะหล่ำปลี ผักเสี้ยน ถั่วงอก เป็นต้น วิธีทำคือนำเอาผักมาเคล้ากับเกลือ โดยผสมน้ำเกลือกบน้ำส้มต้มให้เดือด ทิ้งไว้ให้เย็น นำมาเทราดลงบนผักที่เรียงไว้ในภาชนะ เทให้ท่วมผักปิดฝาภาชนะไม่ให้ลมเข้า หมักทิ้งไว้ 4-7 วัน ก็นำมารับประทานได้
         
การดอง 3 รส   คือ รสเปรี้ยว เค็ม หวาน ผักที่นิยมดองแบบนี้คือ ขิงดอง กระเทียมสด ผักกาดเขียน การดองชนิดนี้คือ นำเอาผักมาเคล้ากับเกลือแล้วผสมน้ำส้ม น้ำตาล เกลือ ต้มให้เดือด ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมาเทราดลงบนผักปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน ก็นำมารับประทานได้
         
การดองหวาน   ผักและผลไม้ที่นิยมนำมาดอง เช่น มะละกอ หัวผักกาด กะหล่ำปลี เป็นต้น โดยต้มน้ำตาล น้ำส้มสายชู เกลือ ให้ออกรสหวานนำให้เดือดทิ้งไว้ให้เย็น เทราดลงบนผักผลไม้ ทิ้งไว้ 2-3 วัน ก็นำมารับประทานได้
         
การดองเค็ม  อาหารที่นิยมส่วนใหญ่จะเป็นพวกเนื้อสัตว์และผัก เช่น ปูเค็ม ปลาเค็ม กะปิ หัวผักกาดเค็ม ไข่เค็ม เป็นต้น ต้มน้ำส้มสายชูและเกลือให้ออกรสเค็มจัดเล็กน้อยให้เดือดทิ้งไว้ให้เย็น กรองใส่ภาชนะที่จะบรรจุอาหารดอง แล้วหมักทิ้งไว้ 4-9 เดือนจึงนำมารับประทาน
         
การหมักดอง  ที่ทำให้เกิดแอลกอฮอล์ คือการหมักอาหารพวกแป้ง น้ำตาล โดยใช้ยีสต์เป็นตัวช่วยให้เกิดแอลกอฮอล์ เช่น ข้าวหมาก ไวน์ เป็นต้น


การถนอมอาหารโดยการเชื่อม


 การเชื่อมและการกวนเป็นวิธีถนอมอาหารโดยอาศัยสารน้ำตาลป้องกันไม่ให้อาหารนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงบูดเน่าเสียหายการถนอมอาหารโดยการเชื่อม 3 วิธี ดังนี้ 

       การเชื่อมแบบธรรมดา 

            อาจเคี่ยวจนน้ำเชื่อมข้นเหนียว น้ำเชื่อมแทรกซึมเข้าในเนื้อของสิ่งที่เชื่อมแล้วใช้น้ำเชื่อมที่เหลือแช่หล่อไว้อีกชั้นหนึ่ง เช่น กล้วยเชื่อม สาเกเชื่อม ลูกตาลเชื่อม ขนุนเชื่อม เป็นต้น หรืออาจเคี่ยวต่อไปจนน้ำเชื่อมแก่จัด เมื่อเย็นลงจะแห้งและแข็งตัว

      การถนอมอาหารด้วยการแช่อิ่ม 

          เป็นการถนอมอาหารโดยใช้น้ำตาลปริมาณมาก คือ นำอาหารมาแช่ในน้ำเชื่อม และเปลี่ยนเพิ่มความเข้มข้นจนถึงจุดอิ่มตัวแล้วนำมาทำแห้ง มักใช้กับผลไม้ที่มีรสขม รสขื่น หรือรสเปรี้ยวจัด ทำให้สิ่งนั้นรสจืดลงเสียก่อนโดยวิธีต่าง  เช่น แช่น้ำเกลือ แช่น้ำปูน แช่สารส้ม เป็นต้น  ผลไม้ที่นิยมนำมาแช่อิ่ม เช่น มะม่วง มะขาม มะกอก มะยม เป็นต้น

      การฉาบ 

           เป็นการนำเอาผักหรือผลไม้ที่ทำสุกแล้ว เช่น เผือกทอด มันทอด กล้วยทอด เป็นต้น วิธีฉาบคือเคี่ยวน้ำตาลให้เป็นน้ำเชื่อมแก่จัดจนเป็นเกล็ด แล้วเทลงผสมคลุกเคล้ากับของที่ทอดไว้ ทิ้งไว้ให้เย็นจนน้ำเชื่อมเกาะเป็นเกล็ดติดอยู่บนผิวอาหารที่ฉาบ 

การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช



การกำจัดแมลงศัตรูพืช
การป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช เป็นความจำเป็นอีกอย่างหนึ่งในการดูแลรักษาไม้กระถาง เพราะแมลงเป็นศัตรูต่อการเจริญเติบโตของพืช ที่พบมากมีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. แมลงประเภทปากกัด ได้แก่ ตั๊กแตน หนอนผีเสื้อ ด้วง ฯลฯ ทำลายโดยกัดกินใบ ทำให้ต้นไม้ไม้สามารถปรุงอาหารได้ และชะงักการเจริญเติบโต แมลงปากกัดบางชนิดกัดแทะเข้าไปถึงกิ่งก้านหรือลำต้น ทำให้ท่อน้ำท่ออาหารของต้นไม้เสียหาย ถ้าถูกทำลายมากต้นไม้จะเหี่ยวและตายในที่สุด วิธีกำจัดโดยการใช้ยาประเภทถูกตัวตายหรือกินตายฉีดพ่น หากพบจำนวนไม่มากให้จับทำลาย
2 .แมลงประเภทดูดน้ำเลี้ยง ได้แก่ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยจั๊กจั่น เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน แมงมุมแดง เพลี้ยหอย ฯลฯ ทำลายโดยดูดน้ำเลี้ยงจากใบ แมลงปากดูดบางชนิดยังปล่อยสารพิษให้ต้นไม้ใบสีซีดเหี่ยวแห้ง ใบร่วงก่อนกำหนด ชะงักการเจริญเติบโต และแห้งตายในที่สุด วิธีกำจัดโดยการฉีดยาประเภทถูกตัวตาย

ข้อควรระวัง 
      เนื่องจากการปลูกไม้กระถางประดับเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ชิดกับคน หากสามารถหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชได้มากเท่าไรหรือไม่ใช้เลยยิ่งดี โดยเฉพาะไม้กระถางที่ใช้ประดับในอาคารบ้านเรือน หากจำเป็นต้องใช้ยากำจัดแมลงควรกระทำอยู่ภายนอกอาคารและหลีกเลี่ยงยาที่มีอันตรายมากๆ มีฤทธิ์ตกค้างนานและมีกลิ่นรุนแรง ก่อนนำพรรณไม้เข้าประดับในอาคารควรงดฉีดยา หรือทิ้งไว้จนหมดกลิ่นและฤทธิ์เสียก่อน สิ่งสำคัญควรเลือกใช้ยาให้ถูกต้องกับแมลงที่ต้องการกำจัด แล้วนำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะโดยทั่วไปยาฆ่าแมลงมีอันตรายต่อคนอยู่แล้วไม่มากก็น้อย ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีอันตรายก็ยิ่งมากขึ้น

การกำจัดโรคพืช
      
โรคพืชที่พบบ่อยในไม้กระถางได้แก่  โรคโคนเน่า  ลักษณะอาการแสดงออกที่บริเวณโคนต้นระดับผิวดินจะเน่าและต้นจะล้มตายในที่สุด  ทางป้องกันหรือลดความเสียหายทำได้โดยการกำจัดวัชพืชและตัดแต่ง ช่วยให้โคนต้นโปร่งมีการระบายอากาศ แสงแดดส่องได้ทั่วถึง  และพยายามรดน้ำให้น้อยลง รักษาผิวหน้าดินอย่าให้ชื้นแฉะเกินไป

การกำจัดวัชพืช
      
วัชพืชหรือหญ้าต่างๆ ที่ขึ้นอยู่ในเครื่องปลูกจะเป็นตัวแย่งอาหารจากต้นไม้ ทำให้ต้นไม้ไม่สวย และยังเป็นที่อยู่อาศัยหรือแหล่งสะสมของโรคแมลงบางชนิดด้วย การกำจัดวัชพืชควรทำในขณะที่วัชพืชยังเป็นต้นอ่อน ยังไม่ออกดอกติดเมล็ด เพราะเมล็ดแก่อาจหล่นลงในเครื่องปลูกงอกเป็นต้นอ่อนได้ ทำให้ต้องเสียเวลาในการกำจัดต่อไปอีก วิธีการกำจัดวัชพืชอาจใช้วิธีถอนด้วยมือ แซะหรือขุดด้วย พลั่วมือ เสียม หรือจอบ โดยพรวนดินร่วมไปด้วย

การตัดแต่ง
           
การตัดแต่ง ไม้ประดับหลังจากปลูกประดับไปนานๆ ส่วนยอด กิ่งก้าน หรือใบจะยืดยาวเจริญไม่เป็นระเบียบ ขาดความสวยงาม จำเป็นต้องมีการตัดแต่งกิ่งออกบ้าง เพื่อรักษาทรงพุ่มให้สวยงามยิ่งขึ้น หากมีกิ่งหักเสียหายที่เกิดจากการเคลื่อนย้าย กิ่งมีโรคแมลงเข้าทำลาย หรือกิ่งแห้ง ควรตัดออกให้ดูสวยงามและยังเป็นการรักษาสุขภาพของต้นไม้ให้ดีขึ้นด้วย โดยใช้กรรไกรตัดแต่งหรือมีดคมๆ เพื่อไม่ให้แผลที่ตัดช้ำมากนัก


วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้า



การดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้า
   การดูเครื่องใช้ไฟฟ้าในกรณีเราใช้ประจำอย่างสม่ำเสมอแล้ว  เราต้องดูเราให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้  ให้๔สะอาด  รวมไปถึงการรักษาให้ใช้ได้ยาวนาน  โดยปติแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นหากตั้งภายในบ้านเราก็ควรจะทำให้ดูแลสะอาดอยู่เสมอ  จะทำให้บ้านเราน่าอยู่มากขึ้น   
   
         เตารีด 
                เตารีดเป็นอุปกรณ์ที่ให้ความร้อนแล้วนำความร้อนนั้นมารีดลงบนเสื้อผ้า  สิ่งหนึ่งที่มักพบได้บ่อย  คือรอยไหม้ที่เตารีดใช้ไปได้ระยะหนึ่งเนื่องจากความร้อนสูงกับเสื้อผ้าและกระดุมทำให้เกิดรอยไหม้ของเรา  สำหรับวิธีการแก้ไขมีหลายวิธีแต่ไม่ใช้นำเอามีดหรือว่าของมีคมที่ทำให้หน้าเตารีดเกิดความเสียหายได้  วิธีการแบบชาวบ้านง่ายที่สุดคือการนำใบตองจากต้นกล้วยนี้ล่ะ  เมื่อเตารีดร้อนได้ที่ก็นำไปทาบกับใบตองให้ไหม้ไปเลย  หลายๆครั้งแล้วจะค่อยหลุดและจางลง  หลังจากนั้นก็นำไปถูกับเตารีดอีกครั้ง  วิธีนี้สามารถที่ขจัดคราบไหม้แล้ว  ยังช่วยให้เตารีดของ




เรานั้นรีดลื่นอีก  หรืออีกวิธีหนึ่งคือการนำผ้าถูกใส่กับสบู่แล้วมาถูกับเตารีดที่ยังร้อน  ถูๆจนสามารถที่จะออกได้หมด
    อีกกรณีหนึ่งของเตารีดคือการเป็นสนิม  จากที่เราไม่ได้ใช้ไปนานๆ  มักจะเกิดสนิม  โดยการนำน้ำส้มสายชู  ยาสีฟันหรือว่าเทียนไขก็ได้  แล้วนำมามาถูปริเวรสนิม  แล้วสนิมก็จะจางหายไปได้
            
                                            โคมไฟ
  อุปกรณ์ที่ให้แสงสว่าง  และเป็นสิ่งที่ให้เป็นเครื่องตกแต่งบ้าน  ดังนั้นความสะอาดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ  สำหรับโคไฟมักเกิดไฟฟ้าสถิตดังนั้นวิธีแก้ไขคือทำความสะอาดด้วยไม้ขนไก่  เพื่อป้องกันฝุ่นเข้าไปจับอีกรอบ  เพราะว่าไฟฟ้าสถิตจะดูดสิ่งสกปรกเข้าไปในตัว  หากเป็นวัสดุที่เป็นผ้าให้ทำการถอดล้างออกเลยจะดีกว่า  ที่เป็นกระดาศสามารถให้ที่ปัดฝุ่นหรือว่าผ้าซุบน้ำหมาดๆ  เช็ด
                  
โทรทัศน์  
การทำความสะอาดหน้าจอ  สามารถที่จะเลือกได้ทั้งน้ำยาที่ทำความสะอาดหน้าจอทีวีได้โดยเฉพาะหรือว่าจะใช้  แอกอล์ฟชู้น้ำแล้วเช็ดบริเวณหน้าจอเบาๆได้  สำหรับฝุ่นที่อยู่ภายในเครื่องสามารถที่จะใช้อุปกรณ์เป่าได้  แต่ถ้าไม่มีให้ใช้ไดร์ฟเป่าผมใช้ปรับแบบเย็น  ก่อนนั้นให้ใช้ผ้าซุบน้ำหรือว่าผ้าแช่น้ำบิดให้หมาดๆ  มาคลุมที่ช่องด้านหลังโทรทัศน์ไว้  แล้วใช้ไดร์ฟเป่าผมเป่าด้านล่างขึ้นไป  ฝุ่นจะไปเกาะผ้าทำแบบนี้หลายๆครั้งจนฝุ่นหมด  จะทำให้โทรทัศน์ของเราระบบความร้อนและมีอายุการใช้งานที่นานขึ้นด้วย
              เครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าเสียงดัง  ตามจริงแล้วก็มีเสียงเป็นธรรมดาแต่จะมีเสียงแตกต่างไปจากเดิม  ดังนั้นหากพบว่ามันแตกต่างไปจากเดิมให้ลองเอาน้ำมันหล่อลื่นหยอดตามข้อต่อต่างๆ  ลองดู
สำหรับการทำความสะอาดของถังนั้นปกติช่างจะทำการถอดออกมาฉีดทำความสะอาด  ถ้าทำแบบนั้นได้ก็ถอดมาได้  แต่ถอดไม่เป็นก็ใช้น้ำอุ่นไม่ต้องร้อนเอาแค่อุ่นประมาณ 40 องศาเซลเซียส  ลงไปในเครื่องแล้วทำการปั่นปกติใส่น้ำส้มสายชูลงไป  แล้วปล่อยน้ำทั้งก็จะทำให้ถังเครื่องซักผ้านั้นดูสะอาดมากขึ้น  และควรทำเช่นนี้บ่อยสำหรับการดูแลรักษานั้นควรพึ่งระวังน้ำในการซักผ้านั้นไม่ควรที่จะเกิด 40 องศาเซลเชียเพราะว่าจะทำให้ถังและส่วนประกอบอื่นๆชำรุดได้ง่าย  การที่จะซักทุกครั้งควรที่จะค้นหาว่าในกระเป๋าเสื้อ  กางเกงไม่ควรมีกระดาษ  คลิป  หรือว่าสิ่งแปลดปลอมอื่นๆเข้าไป  และนำหนักไม่ควรเกินจากที่กำหนดไว้  ซึ่งเป็นการคำนวณจากน้ำหนักผ้าและน้ำนัดของน้ำด้วย
                 เครื่องดูดฝุ่น 
        เครื่องดูดฝุ่นนั้นทำงานเกี่ยวกับฝุ่นจึงทำให้มีฝุ่นมาสะสมได้  ดังนั้นต้องดูแลความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง  โยพนะถุงที่เก็บฝุ่นนั้นควรที่จะนำไปเททุกครั้งแล้วทำความสะอาด  อย่าให้มีรู้ที่ผ้าโดยเด็ดขาดเพราะว่าจะทำให้ฝุ่นนั้นเข้าไปในเครื่องได้  หากใช้ไปแล้วเครื่องดูดฝุ่นไม่มีแรงดูดเช่นเดิมแน่องจากมีฝุ่นเข้าไปในระบายอากาศของเครื่อง  เข้าไปมีการอุดตันจึงต้องตรวจสอบและทำความสะอาดบริเวณช่องลม

เว็บอ้างอิง http://home.kapook.com/view44224.html

การทำความสะอาดบ้าน


การทำความสะอาดบ้าน
วิธีทำความสะอาดบ้านควรทำจากที่สูงลงมาที่ต่ำ ดังนี้
1. ทำความสะอาดเพดาน
2. ทำความสะอาดฝาผนัง
3. ทำความสะอาดประตู หน้าต่าง
4. ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์
5. ทำความสะอาดพื้น


การทำความสะอาดเพดาน



ควรใช้ไม้กวาดหยากไย่กวาดใยแมงมุมออกให้สะอาดสัปดาห์ละครั้ง หรือทันทีที่พบเห็นเนื่องจากใยแมงมุมจะทำให้ฝุ่นละอองไปติดทำให้เพดานสกปรก ไม่สวยงานฝุ่นละอองฟุ้งกระจายเมื่อลมพัดวน ทำความสะอาดีควรหาพลาสติกมาคลุมสิ่งขอที่วางอยู่บนพื้น เพื่อป้องขันหมากยากไย่และฝุ่นละออกตกลงมาเลอะเท่อทำให้ไม่ต้องทำความสะอาดยาก เพราะเมื่อทำความสะอาดเสร็จก็รวบพลาสติกที่คลุมไปสะบัดฝุ่นออกเท่านั้น





การทำความสะอาดฝาผนัง

ควรทำความสะอาด

สัปดาห์ละครั้ง ถ้าฝาผนังเป็นไม้กระดานให้ทำความสะอาดโดยใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดฝุ่นออกอีกครั้งแล้วนำผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ เช็ดให้ทั่วถ้าฝาผนังเป็นปูนอาจใช้ไม้กวาดดอกหญ้ากวาดลงเบาๆ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด หรือถ้าสกปรกมาก เช่น เลอะคราบน้ำมันให้ใช้ฟองน้ำหรือแปรงขัดกับน้ำผงซักฟอกแล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดให้สะอาด



การทำความสะอาดประตู หน้าต่าง


ประตูหน้าต่างเป็นไม้ ให้เช็ดฝุ่นด้วยผ้าแห้งและใช้ไม้กวาดขนไก่ปัดฝุ่นก่อน แล้วจึงใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดอีกครั้ง แต่ถ้าประตูหน้าต่างเป็นกระจกควรเช็ดด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ ใช้ทีฉีดน้ำทีกระจก แล้วเช็ดด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์จนกระจกใสไม่มีรำย้อย

การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์


การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ เช่น หลังตู้ บนโต๊ะ หรือชั้นวางของ ให้ใช้ไม้กวาดขนไก่ปัดฝุ่นออกก่อน เพื่อจะได้ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ถ้าตู้ โต๊ะ หรือชั้นวางของ สกปรกมาก อาจใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาด
การทำความสะอาดพื้น



เมื่อทำความสะอาดส่วนอื่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงทำความสะอาดพื้นโดยเริ่มจากการกวาด ควรกวาดตามทิศทางลม เพื่อไม่ให้ฝุ่นย้อนกลับมา กวาดใต้ตู้ ใต้โต๊ะ ใต้เตียง และซอกมุมต่าง ๆ ให้ทั่วด้วยการกวาดไปในทิศทางเดียวกัน แล้วกวาดมากองรวมกันไว้เพื่อให้โกยผลได้สะดวก ถ้าพื้นปูพรมควรใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด